วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

จดหมายถึงพ่อแม่

กราบเท้า...คุณพ่อ ที่เคารพ



วันนี้เป็นวันที่สำคัญอีกวัน ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น ''ลูก'' มากๆ เพราะวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันที่คนไทยทุกคนรู้ดีว่า นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็น ''วันพ่อแห่งชาติ'' อีกด้วย ในเมื่อเป็นวันพ่อทั้งที ลูกสาวคนนี้ ผู้ซึ่งมีอาชีพเป็นนักข่าวบันเทิง งดจับหยิบปากกา (ที่เค้าว่ากันว่าเรามีอยู่ในมือ) เขียนเรื่อง ''ดารา'' ซักวัน แต่วันนี้ขอเขียนจดหมายถึงคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเราอีกคนหนึ่ง นั่นคือ ''พ่อ'' ของเรานั่นเอง
นับจากวันแรกที่ลูกคนนี้ลืมตาอ้าปากได้ นอกจากจะเห็น ''แม่'' คอยประคอง อุ้ม และส่งยิ้มให้เราแล้ว เรายังไม่มือแข็งแรงๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเราจะมาเรียกได้ที่หลังว่า ''พ่อ'' ก็คอยหยิบยื่นสิ่งดีๆ และคอยสนับสนุนลูกอยู่เบื้องหลัง
จริงอยู่ที่หน้าที่เลี้ยงดูลูกจะเป็นของ ''แม่'' ซะส่วนใหญ่ แต่ทว่าถ้าเราไม่มีหัวหน้าทัพอย่าง ''พ่อ'' แม่ของเราก็จะไม่ได้กำลังใจ ในยามเพิ่งคลอด และแน่นอนว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในเวลานั้น ต้อง
เป็นหน้าที่ของ ''พ่อ'' ที่เสียสละแรงกายและใจ ออกไปหาเงินมาเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
ผู้เขียนยังจำได้ สมัยก่อน สมาชิกบ้านเรา มีทั้งหมด 5 คน มีพ่อ แม่ และน้องๆ อีก 2 คน ถึงบ้านเราจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพราะพ่อมีหน้าที่เป็นชาวประมง หาช้าวกินค่ำ และเข้าฝั่งอาทิตย์ละไม่กี่วัน แต่ทุกครั้งที่พ่อกลับจากทะเล และกลับมาอยู่บ้าน อาหารการกินของบ้านเราจะดีทุกครั้ง เพราะแม่จะทำอาหารดีๆ ที่ได้จากทะเล มาให้พ่อทานทุกครั้ง และช่วงค่ำบ้านเราจะมีกิจกรรมทำกัน ไม่เล่นเกม (จากไพ่) ก็เล่นคำผวน หรือแม้แต่ฟังเรื่องราวสมัยกรุงสุโขทัย หรือสมัยอยุธยา ที่คุณพ่อมีความรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี จากการอ่านหนังสือต่างๆ ในระหว่างออกทะเล
ชีวิตในวัยเด็กของข้าพเจ้า จัดเป็นชีวิตที่ค่อนข้างอบอุ่น สมาชิกในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า และมีกิจกรรมในครอบครัวทำกัน บางครั้งเวลามีงานวัด พ่อกับแม่ จะพาลูกๆ ไปเที่ยวงาน และกินไก่ย่าง ''จีระพันธ์'' กันเกือบทุกครั้ง ชีวิตในวัยเด็ก ข้าพเจ้ายังจำได้ ว่า มีความสุข และอบอุ่นมากๆ
แต่เวลานี้ วันที่ ''ลูก'' คนนี้ เรียนจบและมาทำงานที่กรุงเทพฯ เป็นนักข่าวบันเทิง ต้องไกลพ่อ ห่างบ้าน และด้วยอาชีพนี้ ทำให้ลูกไม่มีเวลาไปเยี่ยมพ่อที่ ปากน้ำชุมพร มากนัก ทุกครั้งที่ลุกคนนี้เหน็ดเหนื่อย และย่อท้อ ลูกก็ได้แต่โทรศัพท์คุยกับแม่ ... แต่ ''พ่อ'' ลูกจำได้ว่า คุยกับพ่อน้อยครั้งมาก เนื่องจากความหยาบกระด้าง ของครอบครัวเราเอง ที่ไม่นิยมแสดงความรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ส่งผลให้ สมาชิกในครอบครัวของเรา ห่างหายออกไปทุกที น้องๆ พอโตขึ้น ก็แยกย้ายออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน ส่วนพ่อกับแม่ ก็ออกไปทำงาน หามรุ่งหามค่ำ ปล่อยบ้านให้ว่างเปล่าในยามราตรี เกือบทุกวัน
ภาพบรรยากาศ ที่เรามานั่งเล่นไพ่ ใบ้คำผวน ตอนนี้ไม่มีเสียแล้ว และตอนนี้ ''พ่อ'' ก็อายุมากขึ้นทุกวัน สุขภาพก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง รวมไปถึง น้องๆ ที่เริ่มมีชีวิตส่วนตัวของตัวเอง จนมาองไม่เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวแล้ว
แม้เวลาจะผ่านไปนาน แต่ ''ลูก'' ยังไม่เคยลืม ภาพ เรา 5 คน อยู่ด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน และมีความสุขด้วย แม้ตอนนี้ ''ลูก'' จะไม่ได้กินข้าวกับพ่อทุกมื้อเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่ลูกก็รัก และคิดถึงวันเก่าๆ อยู่ทุกวัน และวันพ่อปีนี้ ''ลูก'' ขอให้สัญญากับ ''พ่อ'' ว่า ลูกจะทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน เหลือน้อยลงเต็มที่ และลูกจะทำหน้าที่ของลูกที่ดีอย่างนี้ต่อไป และขอให้ ''พ่อ'' ทำหน้าที่พ่อที่ดี เหมือนที่เคยทำมาก่อนด้วยเหมือนกัน และที่สำคัญนั้น ลูกอยากจะขอโทษ ที่เคยทำให้พ่อเสียใจ ไม่ว่าจะด้วยกาย วาจา และใจ  ต่อไปลูกสัญญาว่า จะทำดี เพื่อ ''พ่อดำ''  ภวัต พงษ์จินดา และขอความดีที่ลูกทำ จงช่วยหนุนนำให้ ''พ่อ'' มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทรของลูกๆ ต่อไป และถ้าเป็นไปได้ ''ลูก'' อยากให้คนในครอบครัว เรากลับมารักและมีชีวิตที่สวยงามเหมือนเมื่อครั้งที่เราเคยอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม

     ด้วยรักและเคารพ
ณัฐธิดา