วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

รถยนต์มือสอง

การดูแลหลังซื้อรถยนต์มือสอง 
     เป็นไปได้ยาก ที่เราจะทราบว่า รถที่เราซื้อมานั้นได้รับการดูแล ซ่อมแซมมาในจุดใดแล้วบ้าง จะมานั่งดู Book Service ก็เป็นเรื่องใหญ่ มักอ่านไม่รู้เรื่อง หรือไม่มีมา ครั้นจะมาเย็นใจซื้อมาแล้ว ใช้ๆไปก่อน เดี๋ยวค่อยเช็คทีหลัง พอดีรถสุดที่รักก็เกิดปัญหา (เจ๊ง) เสียก่อน หลังจากที่เราได้ซื้อรถมาครอบครองแล้ว เราควรนำรถไปเช็ค หรือเปลี่ยนในจุดใดบ้าง เป็นการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า เสียเงิน เสียเวลา เสียอารมณ์ เสียกิ๊ก (กรณีไม่มีรถไปรับ ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า) รับประกันหมดปัญหากังวนใจในภายหน้า มาเริ่มกันเลยครับ

ระบบสารหล่อลื่นทั้งหมด
น้ำมันเครื่อง ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง , ไส้กรองน้ำมันเครื่อง เสียใหม่ และทำการจดบันทึก เลขกิโลเมตรที่ใช้งาน ส่วนมากน้ำมันเครื่องเกรดทั่วๆไป จะมีอายุการใช้งานที่ 5,000 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นพวก สังเคราะห์ และกึ่งสังเคราะห์จะอยู่ได้กว่า 10,000 กิโลเมตร และคอยตรวจเช็คระดับหลังใช้งานอยู่เรื่อยๆ น้ำมันเครื่องที่พร่องลงไปในระหว่างใช้งานจะ มากหรือน้อยนั้น หมายถึงความหลวมของเครื่องยนต์ เป็นการประเมินได้ว่าเครื่องจะต้องได้รับการซ่อมแซมต ่อไปอย่างไร
น้ำมันเกียร , น้ำมันเฟืองท้าย ไม่ว่าจะเป็นเกียรออโต้ หรือเกียรธรรมดาจะมีอายุการใช้งานที่ 25,000 – 50,000 กิโลเมตร ควรตรวจเช็คระดับ ว่าขาดหายหรือไม่ ถ้าเก่ามากควรได้รับการเปลี่ยนถ่าย หรือถ้ารั่วควรรีบซ่อมแซมโดยด่วน

น้ำมันเบรก ถือเป็นสารหล่อลื่นในระบบเบรก ควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 1-2 ปี ถ้าเห็นว่าน้ำมันมีสีคล้ำ ควรเปลี่ยนถ่าย เพราะอาจทำให้ลูกยางเบรก และแม่ปั้มเสียหายก่อนกำหนด
น้ำมันครัช ควรเปลี่ยนถ่ายพร้อมๆน้ำมันเบรก และเป็นการตรวจสอบรอยรั่วของแม่ปั้มครัช ว่ามีอาการรั่วซึมหรือไม่ เพื่อป้องกันลูกยางครัชแตก ถึงกับเข้าเกียรไม่ได้
น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ ปกติจะต้องได้รับการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 1-2 ปี น้ำมันที่เก่ามากๆ จะทำให้ปั้มน้ำมัน และ แร็คพวงมาลัยสึกหรอเร็วกว่ากำหนด น้ำมันเพาเวอร์ที่เก่าจะเป็นสีแดงจางๆ
น้ำมันกระปุกพวงมาลัย สำหรับรถกะบะพวงมาลัยธรรมดา น้ำมันกระปุกพวงมาลัยควรได้รับตววจเช็ค ถึงระดับน้ำมัน ถ้าขาดควรเติมเพิ่ม

ระบบหล่อเย็น
น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำ ตามปกติน้ำยาหล่อเย็นจะต้องใช้เครื่องวัดสภาพ น้ำยาหล่อเย็นที่เสื่อมสภาพจะทำให้ หม้อน้ำเกิดสนิม เกิดการผุกร่อน ท่อยางน้ำบวม และปั้มน้ำเสียหาย ถ้าไม่แน่ใจทำการเปลี่ยนเสียใหม่ดีกว่า และ ควรใช้น้ำยาที่มีคุณภาพ ความเข้มข้นตามที่โรงงานกำหนด ใช้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ พวกน้ำกรอง อย่างน้ำดื่ม (ไม่ต้องถึงขั้นน้ำกลั่นหรอกครับ)
ตรวจเช็คสภาพหม้อน้ำ และรอยรั่ว เมื่อเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำแล้ว ควรตรวจเช็ครอยรั่วของหม้อน้ำไปในตัว หม้อน้ำที่เป็นพลาสติก ถ้าฝาครอบพลาสติกเริ่มมีรอยร้าว (แตกลายงา เหมือนพระเครื่อง) รีบเปลี่ยนทันที หรือซ่อมแซมเป็นแบบทองเหลืองจะทนกว่า ถ้าสภาพหม้อน้ำเก่า มีรอยรั่ว ครีบหม้อน้ำล้มชำรุด หรือมีขี้เกลือเกาะมาก ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งลูก จะดีกว่า

ท่อยางน้ำหล่อเย็น พวกนี้มีอายุการใช้งาน 4 – 5 ปี ท่อน้ำที่เริ่มเสื่อมสภาพ จะมีลักษณะบวมไม่เข้ารูป ท่อน้ำเริ่มนิ่ม หรือมีรอยร้าว ท่อน้ำแข็งตัวบิดไปมาไม่ได้ พวกนี้พร้อมแตกรั่วทันที รวมถึงท่อน้ำหล่อเย็นบริเวณเครื่องยนต์ทุกเส้น
ปั้มน้ำ อายุการใช้งานที่ 100,000 กิโลเมตร หรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับสภาพ สนิมในหม้อน้ำที่มีคุณสมบัติ กัดกร่อนซีลปั้มน้ำ ถ้าคิดว่ารถที่ซื้อมาวิ่งเกิน 100,000 และยังไม่ได้เปลี่ยนให้ถือเป็นชิ้นส่วน ที่ควรเปลี่ยนใหม่ได้เลย
พัดลมไฟฟ้าหม้อน้ำ พวกนี้มีอายุการใช้งานเหมือนกัน ถ้ารถวิ่งเกิน 100,000 กิโล แล้วมักจะได้ต้องเปลี่ยนทุกคัน อาการเสียมักจะเกิดจาก ถ่านมอเตอร์หมด บูชพัดลมแตก หรือลดมอเตอร์ช็อต พวกนี้จะทำให้พัดลมหมุนช้าลง ไม่มีแรง การระบายความร้อนไม่เพียงพอ ควรหาช่างที่มีความชำนาญตรวจเช็ค
พัดลมฟรีปั้ม พวกรถกระบะพัดลมระบายความร้อนจะใช้ระบบ น้ำยาเพิ่มความหนืด ตามอุณหภูมิเครื่องยนต์ น้ำยาที่เริ่มเสื่อมสภาพ จะทำให้พัดลมหมุนฟรีมาก การระบายความร้อนหม้อน้ำ และ แผงคอยล์ร้อนแอร์ไม่เพียงพอ ต้องทำการเปลี่ยนน้ำยาเสียใหม่

ระบบเครื่องยนต์
สายพานไทมมิ่ง เป็นสายพานขับชุดเพลาราวลิ้นของเครื่องยนต์ ส่วนมากจะมีอายุการใช้งานที่ 80,000 – 150,000 กิโลเมตร การจะมาดูที่เลขหน้าปัด ชื่อถือได้น้อยมาก ดังนั้นสำหรับสายพานไทมมิ่ง แนะนำให้เปลี่ยนทันทีหลังซื้อรถ เพราะการที่สายพานไทมิ่งขาด หมายถึงการที่ต้องอาจเปลี่ยนเครื่องใหม่ หรือการซ่อมแซมกันหลักหมื่น ได้ง่ายๆ
สายพานหน้าเครื่อง,ไดชาร์จ ,แอร์ ,ปั้มน้ำ เพาเวอร์ สายพานพวกนี้สามารถตรวจเช็ค รอยร้าว ความแห้งกรอบ และระยะความตึงของสายพาน ถ้ายังใช้งานได้ก็ทำการตั้งให้ได้ระยะ ก็เพียงพอ
จุดรั่วซึมน้ำมันเครื่อง สังเกตได้ง่ายๆที่ตัวเครื่องยนต์ ถ้ามีคราบเหนียวๆ หรือมีน้ำมันหยดบริเวณที่จอดรถ หมายถึงการมีน้ำมันเครื่องรั่วซึม อาจจะเกิดจากซีล ยางต่างๆ หรือการหลวมพร้อมที่จะหลุดของอุปกรณ์บางอย่าง ไม่ควรใจเย็น รีบหาช่างตรวจหา และซ่อมแซมเสียแต่เนิ่นๆ
ใส้กรองอากาศ สังเกตดูความสกปรก ถ้าไม่มากพอเป่าทำความสะอาดได้ หรือถ้าอุดตันเปลี่ยนใหม่ดีกว่า ทำให้ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น
ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงพวกกรองเบนซิล กรองหัวฉีด หรือกรองโซล่า เปลี่ยนใหม่ และเริ่มจดบันทึกการใช้งาน

ระบบเบรก
ผ้าเบรก เป็นส่วนหนึ่งหลังจากซื้อรถมากแล้ว พลาดไม่ได้ เรียกได้ว่า ไปไม่ถึง ยังดีกว่าเบรกไม่อยู่ ให้ช่างตรวจสอบความหนาของผ้า เพื่อกำหนดระยะเปลี่ยน และตรวจสอบสภาพต่างๆ เกี่ยวกับเบรกไปในตัว
สายอ่อนเบรก ส่วนมากเป็นสิ่งที่ทุกคนมักมองข้าม แต่ส่งผลถึงอาการเบรกแตกได้ง่ายๆ ถ้าเก่าให้รีบเปลี่ยนอย่างน้อยก็ยังอุ่นใจ ใช้ได้ตั้งหลายปี

ระบบช่วงล่าง
เป็นระบบที่ควรหาช่างตรวจเช็ค ตั้งแต่ ช็อค และ สปริง ลูกหมากบังคับเลี้ยว ยอยเพลากลาง ลูกปือนล้อ บูชยางต่างๆ แร็คพวงมาลัย รวมถึงลูกยางหุ้มเพลาขับ ยางหุ้มแร็ค ถ้าเสียหรือขาดควรได้รับการซ่อมแซมทันที เพราะพวกนี้มักจะส่งพลถึง สมรรถนะการขับขี่ และความสามารถในการเกาะถนน เป็นอันตรายมากๆ สำหรับชิ้นส่วนที่หลวมมากจน เกิดการหลุดแตกออกมาระหว่างการขับขี่
ล้อ และยาง
อายุการใช้งานของยางรถยนต์อยู่ในหลักไม่เกิน 4 ปี ก่อนที่จะเกิดอาการบวม แตกลายงา ยางที่เก่าประสิทธิภาพในการเกาะถนน การรีดน้ำ และการเบรกจะสูญเสียไปในทุกขณะ ควรตรวจเช็ดวันเดือนปีที่ผลิตของยาง ถ้ายางยังใช้งานได้ดี ให้จดบันทึก และทำการสลับล้อยางตามคู่มือรถ หรือทุกๆ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร

ระบบไฟฟ้า
อีกระบบหนึ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้ มีอยู่มากรถที่ซื้อมาช่วงแรกๆ อาจเกิดปัญหามาจากระบบสายไฟ โดยเฉพาะพวกสายไฟต่อเติม เช่นเครื่องเสียง ไฟหน้า สปอร์ทไลท์ หรือพวกอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ซึ่งได้มีการถอดเข้า ออก พวกนี้มักจะเกิดปัญหาลัดวงจร ไฟไหม้ หรือเครื่องดับได้ง่ายๆ ควรหาช่างไฟ (เก่งๆ) ตรวจความเรียบร้อย หรือถอดสายที่ไม่จำเป็นออกให้หมด และควรตรวจเช็คสภาพความพร้อมของกล่องฟิวส์ และฟิวส์สำรอง รวมถึงไดชาร์จ และได้สตารท์ให้เรียบร้อย
แบตเตอร์รี่ และน้ำกลั่นแบตเตอร์รี่
อันดับแรก ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น ในแบตเตอร์รี่ ควรอยู่ในระดับที่กำหนด และตรวจหา วัน – เดือน – ปี ที่หมดอายุของแบตเตอร์รี่ ส่วนมากแบตเตอร์รี่แบบเติมน้ำกลั่นจะมีอายุการใช้งาน ไม่เกิน 2 ปี ถ้าไม่แน่ใจถึงอายุของแบตเตอร์รี่ ให้เรียบเปลี่ยนเสียก่อนดีกว่า ไปจอดที่ไหนแล้วสตารท์ไม่ติด

ระบบแอร์

อย่างแรกควรหาช่างถอดตู้แอร์ ออกมาล้างทำความสะอาด เพราะตู้แอร์ที่รั่ว มักเกิดจากสิ่งอุดตันเข้าไปกัดกร่อนจนคอยล์เย็นเสียห าย ควรล้างออกเสียบ้าง และตรวจเช็คข้อต้อ โอริง ท่อน้ำยาแอร์ ต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด ปัญหาเรื่องตู้อบเคลื่อนที่

วันต่อภาษี และ พ.ร.บ.
เป็นสิ่งสำคัญที่มักจะลืมเลือน เราต้องตรวจดูว่า ภาษีรถยนต์ประจำปีจะหมดใน วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร เพราะอาจทำให้ต้องมาเสียค่าปรับ เสียเวลากันอีกครับ
อย่างที่กล่าวมา การดูแลรถยนต์มือสอง ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือน่ากลัวอย่างไร ถ้าเรารู้จักดูแลรักษา เช็คสภาพหลังใช้งานบ่อยๆ รถสุดที่รักของคุณก็เป็นพาหะนะที่รู้ใจ ใช้งานไปอีกยาวนาน

สุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ที่ต้องเตรียมไว้

บางแสน

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554

ชะอำ

ชะอำ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบโดยกระปุกดอทคอม
           เฮ้อ… อากาศร้อนๆ แบบนี้ ถ้าได้ไปพักผ่อนแถบชายทะเล ก็คงดีไม่น้อยเลย… ไม่ว่าจะเลือกเดินทางแบบฉายเดียว สองคนกับคนรู้ใจ เฮฮากับเพื่อนร่วมก๊วน หรือท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กับครอบครัว ก็คงสนุกสุขสันต์คลายร้อนได้เหมือนกัน เอ… แล้วทะเลที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้างหนอ? อ่ะ อ่ะ ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวไหนดี วันนี้เรามีสถานที่เที่ยวมานำเสนอค่ะ และ ที่นั่นคือ  ชะอำ นั่นเอง
           ชะอำ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันในจังหวัดเพชรบุรี เป็นชายหาดติดทะเลฝั่งอ่าวไทย แต่เดิม ชะอำ เป็นเพียงตำบลหนึ่ง ขึ้นอยู่กับอำเภอ หนองจอก แต่ภายหลังที่หัวหินมีชื่อเสียง ที่ดินแถบชายทะเลถูกจับจองหมด พวกเจ้านายชั้นผู้ใหญ่สมัยนั้น จึงพยายามหาสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ โดยการนำของสมเด็จกรมพระยานราธิปประพันธ์พงศ์ และได้ พบว่า หาดชะอำ เป็นชายหาดที่สวยงามไม่แพ้หัวหิน ชะอำ จึงเริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นมา ชะอำ ได้รับการพัฒนาเจริญเติบโตขึ้น และยกฐานะเป็นอำเภอจนปัจจุบัน
ชะอำ
  ชะอำ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ที่เด่นๆ และน่าสนใจ คือ
หาดชะอำ
           อยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรี 41 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายเข้าชายหาด ระยะทาง 2 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่สวยงาม และมีชื่อเสียงของจังหวัดเพชรบุรี เดิมชะอำเป็นเพียงตำบลหนึ่งขึ้นอยู่กับอำเภอหนองจอก เป็นชายหาดที่เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากตั้งแต่สมัยโบราณ ตามประวัติเล่ากันว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เคยเสด็จมาที่นี่พร้อมด้วยสมเด็จพระเอกาทศรถ ทรงพอพระราชหฤทัยในความงามของหาดแห่งนี้มาก ทรงประทับแรมอยู่หลายวัน จนกระทั่งชาวบ้านเรียกหาดนี้ว่า หาดเจ้าสำราญ มาจนปัจจุบัน
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 

           ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก ตำบลห้วยทรายเหนือ ตรงหลักกิโลเมตรที่ 216 เลยหาดชะอำมา 8 กิโลเมตร เป็นพระตำหนักที่ประทับริมทะเล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง" พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ค่าเข้าชม ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 032508039  เว็บไซต์ http://mrigadayavan.org/
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
สวยไหม๊ค่

บ้านไม้

บ้านไม้ชั้นดียว-01
หลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ แต่ดูมีสไตล์เพราะบ้านหลังนี้เน้นการโชว์สีธรรมชาติของเนื้อไม้ที่นำมาทำโครงสร้างของตัวอาคาร และการตกแต่งภายในทั้งหมด ซึ่งทำให้ ตัดกับสีฝ้าเพดานและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโทนสีขาวได้อย่างกลมกลืน
การนำไม้จริงมาใช้ใน โครงสร้างหลักของอาคาร ในปัจุบันนี้ มีเทคนิคในการก่อสร้างหลายอย่างที่สามารถนำมาใช้ผสมผสาน กับวัสดุอื่นๆให้สวยงามได้ไม่ยาก โดยไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุ ที่เป็นไม้ล้วนๆมาใช้กับทั้งอาคารก็ได้ เช่นบ้านหลังนี้ ใช้โครงสร้างหลักของอาคาร เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และก่ออิฐ สลับกับการใช้ไม้แผ่นบางมาตกแต่งผนังเพื่อความสวยงาม
บ้านไม้ชั้นดียว-07
บ้านไม้ชั้นดียว-05
บ้านไม้ชั้นดียว-06
บ้านไม้ชั้นดียว-04
บ้านไม้ชั้นดียว-03
บ้านไม้ชั้นดียว-02
บ้านไม้ชั้นดียว-01
Originally posted 2010-07-15 16:35:53.

ดอกไม้นานาชนิด

กุหลาบแดงและขาวรวมกัน : ดอกไม้สำหรับสื่อความหมายให้รู้ว่า สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน
กุหลาบสีชมพู : ดอกไม้สำหรับความงดงามและความอ่อนโยน
กุหลาบสีเหลือง : เป็นดอกไม้ที่บอกเป็นนัยว่า ขอเป็นชู้ทางใจหรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง หรือ "อิจฉา ริษยา"
กุหลาบสีส้ม : ดอกไม้เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา 
กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) : แทนคำว่า เธอช่างสวยเหลือเกิน
กุหลาบสีขาว : ดอกไม้สำหรับบอกว่า ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน
กุหลาบตูมที่มีทั้งใบและหนาม : เป็นดอกไม้ที่บอกให้รู้ว่า แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ

กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด
กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น
กุหลาบตูมสีแดง : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก

กุหลาบตูมสีขาว : ดอกไม้ที่แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรักหรือ "
แด่เธอ... ที่ไม่มีความรู้สึก"
กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก : เป็นดอกไม้ที่บอกว่า นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้
กุหลาบบานสีแดง : ดอกไม้สำหรับบอกให้รู้ว่า ฉันรักเธอเข้าแล้ว
กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว : เป็นดอกไม้ที่เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว
กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว
กุหลาบไร้หนาม : เป็นดอกไม้ที่สื่อให้รู้ว่า เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงใหลแม้ยามแรกพบ
กุหลาบดอกเดียว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว” หรือ "สำหรับคุณที่ขี้เหร่"
กุหลาบ 999 ดอก "รักชั่วนิรันดร์"

กุหลาบ 1,001 ดอก "ซื่อตรงในรัก ตลอดกาล"



กุหลาบสีดำ สื่อความหมายถึง ความเศร้าโศก หรือ ความตาย หรืออีกนัยหนึ่งแปลได้ว่า รักนิรันดร์


กุหลาบสีพีช แทนความหมายถึง ความจริงใจและความรู้สึกชื่นชมที่คุณมีให้แก่เขาหรือเธอ
กุหลาบสีม่วง สื่อความหมายถึง รักแรกพบ (First Love)
 
"กุหลาบสีน้ำเงิน Blue Rose" : ความหมายของมันคือ การปฏิเสธ การบอกลา หรือการไม่สมหวัง




แพนซี่ : สื่อแทนความหมายของหัวใจว่ารำพึงรำพันถึงความรัก

พุทธรักษา : ดอกไม้สัญลักษณ์ ประจำวันพ่อ สื่อแทนความหมายว่า"รักและเคารพคุณพ่อที่สุด "
เยบีร่า ; "เธอคือแสงอาทิตย์ แห่งชีวิตฉัน"
พิทูเนีย : ส่งให้กับคนที่โกรธ ให้รู้ว่า "ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอ"

การ์เดนเนีย : สำหรับส่งให้กับคนขึ้อาย เพราะมันหมายถึงความรักที่เป็นความลับ
++ คาร์เนชั่น
          คาร์เนชั่น สีแดง : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “เห็นใจในความรักของฉันที่มีต่อเธอบ้าง” เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน หรือ "สำหรับหัวใจที่แห้งเหี่ยว"
สีชมพูหวาน : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรักฉันด้วย”
คาร์เนชั่นลาย : ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่งไปเพราะมันหมายถึง “ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย”
คาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบดอกออกไป : เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า “ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย”
คาร์เนชั่นสีเหลือง : สำหรับคุณที่บริสุทธิ์ และน่ารัก

 
 
ดอกป๊อปปี้สีแดง : ฉันจะคอยปลอบโยนคุณเอง
ดอกป๊อปปี้สีขาว : ฉันเผลอรักคุณเข้าแล้ว
ดอกป๊อปปี้สีม่วง : ฉันฝันเห็นหน้าเธอทุกคืน

  
++ ทิวลิป
          ทิวลิป เป็นดอกไม้ที่หมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ความรักที่ฉาบฉวยและจึดจางอย่างรวดเร็ว
          ทิวลิปสีแดง : ดอกไม้ที่สื่อว่า “อยากให้โลกรู้ว่าฉันรักเธอ” 
          ทิวลิปสีเหลือง : ดอกไม้ที่สื่อว่า มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า “ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร” 
          ทิวลิปหลากสีในช่อเดียวกัน : ดอกไม้ที่หมายความว่า “ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้”  
++ ดอกลิลลี่
          ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ที่แทนความรักอ่อนหวาน บริสุทธิ์ อ่อนไหวต่อโลก “เธอเป็นรักแรกของฉันนะ คนดี”
++ ดอกไอวี่
          ดอกไอวี่ เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก แต่ถ้าหนุ่มคนไหนต้องการขอสาวแต่งงานลองส่งดอก ไอวี่แทนใจก็ได้ เพราะอีกนัยหนึ่ง หมายถึงการแต่งงาน 
 
ดอกโรสแมรี่ : 'แทนคำขอบคุณ ที่คุณเข้ามาทำให้ชีวิตผมไม่เดียวดายอีกต่อไป'
 
ดอกแจสมินอินเดีย ฉันเชื่อคุณ คุณเป็นคนสำคัญของฉัน
 
ดอกโครคัส : ไม่มีพิษ ไม่มีภัย
 
ดอกรูห์บ๊าบ : เตือนสติ
 
ดอกฮอลลี่ : ฉันไม่เคยลืมคุณ (ไม่รู้ว่ารูปถูกรึป่าวนะ แหะๆ)
 
ดอกบัตเตอร์คัพ : สำหรับคุณที่เป็นคนซื่อ ( อาจจะบื้อ )
 
ดอกพีชสีม่วงแดง : ฉันยอมเป็นทาสของคุณ
 
ดอกไอริส : ฉันมีอะไรจะบอกคุณ
 
ดอกเดซี่สีขาว : สำหรับคุณที่ไร้เดียงสา หรือ เป็นการขอคืนดี กลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ หรือแทนความหมายดีๆของความเป็นเพื่อนแก่คนที่เราให้ดอกเดซี่

"หลายอย่างอาจผุพัง เสื่อมค่า ไปตามกาลเวลา
แต่มิตรภาพเป็นสิ่งสวยงามอยู่ตลอดเวลา
และมีคุณค่าเพิ่มขึ้นแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม"

 
ดอกแดนดิเลี่ยน : ความรักเป็นสิ่งที่พระเจ้าบันดางให้
 
ดอกพิโอนี่ : รู้สึกอับอายขายหน้า
 
ดอกเบญมาศ : ความรักที่บางเบาอ่อนไหวง่าย
++ ดอกมะลิ
          ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน มะลิ แทนความหมาย “เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา” หรือ “เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง”
++ กล้วยไม้
          เป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้”  
++ ดอกหญ้า
          คือดอกไม้ที่ใช้สื่อความรักที่เปี่ยมด้วยอิสระ แทนความว่า “ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะคนดี”
++ ดอกบัว
          เป็นดอกไม้แทนความสงบและความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็น “รักด้วยความศรัทธาและชื่นชม” 
++ ดอกแกลดิโอลัส
          เป็นดอกไม้ที่สมควรส่งให้สาวที่เข้มแข็ง และมีความมั่นใจ เพราะแทนคำว่า “เธอช่างเป็นสาวมั่นจริงๆนะ” และยังเหมาะที่จะใช้เป็นดอกไม้แสดงความยินดี แทนคำว่า “ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จ ครั้งนี้”
++ ดอกทานตะวัน
          ดอกไม้ที่แทนสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม ถ้าได้รับดอกทานตะวันเหมือนได้รับสารว่า “แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ” และยังหมายถึง “รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์”
++ แดฟโฟดิล
          เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้ คนรู้ใจ เพราะส่งแดฟโฟดิลเหมือนบอกว่า “น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรของเธอ สมแลัวกับที่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉัน”
++ ดอกซ่อนกลิ่น
          ดอกไม้สำหรับคนที่มีรักซ้อนซ่อนใจ ไม่อาจเปิดเผย “ฉันแอบรักเธออยู่นะ” หรือ “ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน”
++ ดอก Lilac
          ดอกไม้สำหรับการส่งให้กับความรักครั้งแรก
ดอกไลแลคสีม่วง : ความรักครั้งแรกที่หวานฉ่ำ